⚠โรคแทรกซ้อนเรื้อรังที่พบได้บ่อยในผู้เป็นเบาหวาน⚠
.
✅โรคตา
จอประสาทตาเสื่อม และต้อกระจกจากเบาหวาน เมื่อระดับน้ำตาลในร่างกายมีมากขึ้น ร่างกายจะขับน้ำตาลออกมาตามส่วนต่างๆ รวมถึงบริเวณเลนส์ตา ส่งผลให้อาจจะเกิดโรคเกี่ยวกับดวงตาหลายชนิด เช่น ต้อกระจก ต้อหิน ประสาทตาเสื่อม และอาจส่งผลให้จอรับภาพเกิดการฉีกขาดหรือแตก ทำให้มีโอกาสตาบอดได้
.
✅โรคไตเสื่อม ไตวาย จากเบาหวาน
ไต อวัยวะซึ่งทำหน้าที่กรองสารต่างๆ ที่อยู่ในกระแสเลือด มีหลอดเลือดขนาดเล็กจำนวนมากบริเวณไต เมื่อผนังหลอดเลือดถูกทำลายโดยน้ำตาลในเลือดที่สูงอยู่เป็นเวลานาน การทำหน้าที่กรองของไตจะเริ่มเสื่อมลง ทำให้โปรตีนรั่วออกมาในปัสสาวะผู้เป็นเบาหวานมานานกว่า10 ปี มักเกิดปัญหาไตเสื่อม แต่ความรุนแรงและระยะการเกิดจะมาก หรือน้อย ขึ้นกับการควบคุมน้ำตาลในเลือด
.
✅โรคความดันโลหิตสูง
พบค่อนข้างมากในจำนวนผู้เป็นเบาหวาน และเมื่อเริ่มเป็นโรคความดันโลหิตสูงก็มักจะมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคตา และโรคทางสมอง ถ้าเป็นคนอ้วนก็ต้องควบคุมน้ำหนัก หรือลดน้ำหนัก ก็จะช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ด้วยเช่นกัน
.
✅โรคผิวหนัง
เกิดจากร่างกายขาดน้ำ ทำให้ผิวหนังแห้งและเกิดการติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะเชื้อรา ทำให้เกิดอาการคันและเกิดเป็นแผลตามผิวหนัง ทั้งนี้แผลที่เกิดขึ้นมักจะหายยากและเกิดการอักเสบ ผู้เป็นเบาหวานจึงควรหมั่นดูแลรักษาผิวให้สะอาดอยู่เสมอ ทาครีม หรือโลชั่นบำรุงผิว คอยสำรวจร่างกายอยู่เสมอว่ามีตุ่ม หรือแผลที่บริเวณใดบ้าง ถ้าเกิดมีฝีหรือแผล ควรรีบรักษาตั้งแต่เริ่มต้น
.
✅โรคหลอดเลือดหัวใจ
นับเป็นโรคแทรกซ้อนที่คุกคามต่อชีวิตได้ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก จากหลอดเลือดหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จนกระทั่งกล้ามเนื้อหัวใจตายในที่สุด ปัจจัยส่งเสริมให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ได้แก่ ควบคุมเบาหวานไม่ดี ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง ไม่ออกกำลังกาย อ้วน สูบบุหรี่ มีประวัติในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ และผู้ที่มีความเครียดเป็นประจำ
.
✅โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน
เป็นโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากหลอดเลือดที่มาเลี้ยงบริเวณสมองตีบ ตัน ทำให้เกิดการพิการ หรือรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ โอกาสเกิดหลอดเลือดสมองตีบ ตัน จะสูงมากขึ้น ในผู้เป็นเบาหวานที่มีความดันโลหิตสูงร่วมด้วย ทำให้อวัยวะที่สมองส่วนนั้นควบคุมอยู่อ่อนแรงลงไป เกิดอัมพฤกษ์ หรืออัมพาต
.
✅ปลายประสาทเสื่อม จากเบาหวาน
ลักษณะของโรคนี้ไม่ทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ทำให้รู้สึกรำคาญ และทุกข์ทรมาน เกิดจากเส้นเลือดฝอยที่มาเลี้ยงเส้นประสาทถูกทำลาย ไม่สามารถส่งออกซิเจนมาตามกระแสเลือดเพื่อไปเลี้ยงเส้นประสาทได้ รวมถึงการมีน้ำตาลสะสมรวมตัวกันอยู่บริเวณเส้นประสาทเองด้วย จึงทำให้การทำงานของเส้นประสาทเสื่อมลง ความรู้สึกในการรับรู้ต่างๆ ลดลง โดยเฉพาะบริเวณปลายมือ ปลายเท้า จะเกิดอาการชา เมื่อกระทบถูกความร้อน หรือเจ็บปวดจะไม่ค่อยรู้สึก จึงเป็นอันตรายกับผู้เป็นเบาหวาน เพราะอาจทำให้เกิดแผลได้ง่ายโดยไม่รู้สึกตัว เมื่อเป็นมากอาจทำให้กล้ามเนื้อลีบ เล็กลง ทำกิจวัตรประจำวันได้น้อยลง นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อเส้นประสาทที่มาเลี้ยงบริเวณระบบทางเดินอาหารด้วย จึงทำให้เกิดอาการท้องผูกโดยไม่ทราบสาเหตุ สำหรับผู้ชายที่เป็นเบาหวานมานานมักพบปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศร่วมด้วย
.
✅โรคในช่องปาก
โรคในช่องปากมักมีสาเหตุจากร่างกายขาดน้ำ ทำให้ผลิตน้ำลายได้น้อย ปากแห้ง มีผลทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องปาก มีอาการเหงือกอักเสบ เกิดหินปูน ฟันผุ สำหรับวิธีการป้องกัน คือผู้ป่วยควรดื่มน้ำให้มากขึ้น และควรรักษาความสะอาดบริเวณช่องปากอย่างสม่ำเสมอ แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และพบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน เพื่อตรวจรักษาช่องปาก และฟัน
.
👍แหล่งที่มาของข้อมูล : โรงพยาบาลเปาโล
.
#WPHEALTHYWONDER #WDVITAMIN #BS #สมุนไพร #ป่วยง่าย #อ่อนเพลีย #ภูมิแพ้ #ไมเกรน #เบาหวาน #ความดัน #ไขมัน #ตับ #โรคตับ #วัยทอง #ภูมิคุ้มกันต่ำ #หลอดเลือดสมอง #หัวใจขาดเลือด #มะเร็ง #มะเร็งตับ #มะเร็งเต้านม #โรคแทรกซ้อน
-------------------------
❤เรื่องสุขภาพปรึกษาเราซิคะ❤
.
ช่องทางติดต่อ
FACEBOOK >> https://www.facebook.com/WDvitamin
มือถือ >> 0963964289